26 สิงหาคม 2563 | โดย [บทบรรณาธิการ]
52
"เรือดำน้ำ" ประเด็นทางการเมืองที่มีการตั้งข้อสงสัยเป็นวงกว้าง ทั้งเอกสารการลงนามระหว่างรัฐต่อรัฐ ความมั่นคงและความเหมาะสมเรื่องงบประมาณในยามวิกฤติ ดังนั้นในประเด็นนี้หากชะลอการจัดซื้อไปก่อนก็ไม่น่ามีปัญหา
เรื่องเรือดำน้ำ กำลังกลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่เข้ามาสมทบกระแสเชี่ยวกรากของความเคลื่อนไหวในขณะนี้ ในหลายบทเรียนทางประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั้น การชุมนุมที่ยืดเยื้อมักจบที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง คดีล่าสัตว์ทุ่งใหญ่นเรศวร เมื่อเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 นำมาสู่ชัยชนะของภาคประชาชน ปมขายหุ้นไม่เสียภาษีการประท้วงวงกว้าง เมื่อปี 2549 จนนำมาสู่รัฐประหารรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือการออกกฎหมายนิรโทษกรรมในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อ 1 พ.ย.2556 ทำให้มวลชนขณะนั้นลุกฮือมีแนวร่วมมากขึ้น นำมาสู่การเคลื่อนไหววงกว้าง นำสู่การรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 ดังนั้น ปมเรื่องซื้อเรือดำน้ำต้องมีความชัดเจนทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้เป็นการเติมฟืนในเตาเพลิง เชื้อไฟความเคลื่อนไหว ขยายวงกว้าง ดังตัวอย่างบทเรียนในประวัติศาสตร์การเมืองมาแล้ว
ประเด็นที่มีข้อสงสัย คำถามในการซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้ เริ่มจากเอกสารการลงนาม ซึ่งหากพิจารณาจากคำชี้แจงของกองทัพเรือก็ยังพอฟังได้ และมีความแตกต่างจากกรณีจำนำข้าว ที่ไม่มีสัญญากันจริง แค่ถ่ายรูปประกอบเรื่องราว แต่ครั้งนี้มีสัญญา เพียงแต่การลงนามสมบูรณ์แบบหรือไม่ก็ต้องไปดูในฐานะผู้ลงนามกันต่อไป แต่กองทัพเรือมั่นใจในประเด็นนี้ ว่า “รัฐบาลจีนสั่งการให้หน่วยงาน SASTIND ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐของจีนด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการส่งออกอาวุธ มอบอำนาจให้บริษัท CSOC ซึ่ง CSOC ให้ประธานบริษัทลงนามแทน ดังนั้นคนที่มาลงนามของจีนได้รับมอบอำนาจมาอย่างชัดเจน จึงเป็นจีทูจีของจริง ไม่ใช่จีทูจีของปลอม” ซึ่งก็ต้องพิสูจน์กันต่อไปว่ามีอำนาจมากน้อยแค่ไหนและเอกสารจะยืนยันได้ไม่ว่าเป็น “สัญญา” ระหว่างรัฐต่อรัฐ
ความมั่นคงและความเหมาะสมก็เป็นอีกสองประเด็นใหญ่ ด้านความมั่นคงรองรับหากเกิดความขัดแย้ง หรือเป็นเครื่องต่อรองน่านน้ำทะเลก็พอถกเถียงกันได้ เนื่องจากเป็นดุลยพินิจ คาดการณ์กันได้ โอกาสมีทั้งเกิดและไม่เกิด แต่เมื่อดูเพื่อนบ้านที่มีเรือดำน้ำของพอฟังขึ้นว่าเราต้องเตรียมพร้อมไว้ แต่คำถามความเหมาะสมเรื่องงบประมาณในยามวิกฤติเช่นนี้ คือปมร่วมของสังคมที่เป็นคำถามใหญ่ เพราะเงินทุกบาทเวลานี้ต้องเตรียมสำหรับเยียวยารับมือวิกฤติที่จะเกิดขึ้นในทุกเวลา แม้ว่าจะเป็นโครงการในการเสริมสร้างกำลังของกองทัพที่เริ่มตั้งแต่ปี 2563-2569 เป็นการทยอยตั้งงบประมาณรายปีภายในงบฯ ที่กองทัพเรือได้รับตามปกติ ไม่ได้ขอรับงบฯ เพิ่มเติมก็ตาม ทั้งนี้การจัดหาเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 เป็นการทยอยจ่ายทั้งหมด 7 ปี ตั้งแต่ปี 2560-2566 ดังนั้นในประเด็นนี้หากชะลอการจัดซื้อไปก่อนก็ไม่น่ามีปัญหา ส่วนที่ห่วงว่าจะสูญเสียผลประโยชน์อุปกรณ์เสริม ขึ้นอยู่กับการเจรจา อย่านำมาเป็นเงื่อนไข ซึ่งปมทั้งหลายเหล่านี้ยังไม่เอ่ยถึงข้อสงสัยหัวคิดโครงการว่ามีหรือไม่ แค่ความเหมาะสมของประเทศยามวิกฤติก็สมควรชะลอได้แล้ว
August 26, 2020 at 03:18AM
https://ift.tt/34xjzsp
'เรือดำน้ำ' ชะลอออกไปก่อน - กรุงเทพธุรกิจ
https://ift.tt/36KG1NQ
Home To Blog
No comments:
Post a Comment