กรมบัญชีกลาง ซักซ้อมเพิ่มเติม แจ้งสารพัดปัญหา "จัดซื้อจัดจ้าง" ก่อน/หลังโควิด-19 เผย มีทั้งทั้งประเด็นขั้นตอน "ก่อนโควิด" หากชนะประมูลแล้ว ไม่ยอมเข้าทำสัญญาอ้างติดโควิด ไม่ถือเป็นผู้ทิ้งงาน ให้คืน "หลักประกัน""เสนอราคาให้ผู้ยื่นทุกราย ส่วนการจัดซื้อจัดจ้าง "หลังโควิด" ให้พิจารณา "งดหรือลดค่าปรับ" ให้แก่คู่สัญญา หรือขยายระยะ ส่วนขั้นตอน "ตรวจรับงาน" หากลงพื้นที่ไม่ได้ ให้ตั้งคนในพื้นที่ปฏิบัติงานแทน พ่วง "เลื่อนเวลาตรวจรับงาน" ได้
วันนี้ ( 7 ก.ค.) มีรางานว่า นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร อาจส่งผลให้หน่วยงานของรัฐไม่สามารถดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (กวจ.) จึงได้ซ้อมความเข้าใจการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐกรณีต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ดังนี้
กรณีที่โรคโควิด-19 เกิดขึ้นก่อนที่หน่วยงานของรัฐจะลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงกับผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือก
เมื่อหน่วยงานของรัฐมีหนังสือแจ้งให้ผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือก มาลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือกแจ้งเป็นหนังสือว่าไม่สามารถจะลงนาม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19
"หากหน่วยงานของรัฐพิจารณาแล้วเห็นว่าต้องลงนามตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ให้มีหนังสือเรียกผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือกที่เสนอราคาต่ำสุดหรือผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุดมาทำสัญญาหรือข้อตกลง หากเรียกแล้วไม่ยอมเข้าทำสัญญาหรือข้อตกลงให้เรียกรายถัดไปตามลำดับ"
สำหรับผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือกที่เสนอราคาต่ำสุดหรือผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุดที่เรียกแล้ว ไม่ยอมเข้าทำสัญญาหรือข้อตกลง ให้ถือว่ามีเหตุอันสมควรไม่เข้าลักษณะการเป็นผู้ทิ้งงานตามมาตรา 109 แห่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และให้หน่วยงานของรัฐคืนหลักประกันการเสนอราคาให้แก่ ผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย
กรณีที่โรคโควิด-19 เกิดภายหลังจากที่หน่วยงานของรัฐได้ลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงกับคู่สัญญาแล้ว ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณา ดังนี้
1. การบริหารสัญญา เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็นเหตุสุดวิสัยตามมาตรา 102 วรรคหนึ่ง (2) แห่ง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยเหตุสุดวิสัยให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8
การพิจารณางดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือขยายระยะเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง ดำเนินการดังนี้
1.1 กรณีที่สัญญายังไม่ครบกำหนด ให้หน่วยงานของรัฐนำจำนวนวันที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 มาขยายระยะเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง ตามจำนวนวันที่มีเหตุเกิดขึ้นจริง 1.2 กรณีที่สัญญาครบกำหนดและมีค่าปรับเกิดขึ้นแล้ว ให้หน่วยงานของรัฐนำจำนวนวันที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มางดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา ตามจำนวนวันที่มีเหตุเกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ “จำนวนวันที่มีเหตุเกิดขึ้นจริง” ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาจากกฎหมาย ข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งของทางราชการที่ให้หน่วยงานของรัฐปิดทำการ สั่งห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง สั่งปิดสถานที่หรือสั่งห้ามกระทำการหรือ สั่งการใด ๆ จนถึงวันที่เปิดทำการได้ตามปกติ
2. การตรวจรับพัสดุของหน่วยงานของรัฐ ให้ดำเนินการ ดังนี้
2.1 หากคณะกรรมการตรวจรับพัสดุไม่สามารถดำเนินการตรวจรับพัสดุหรือไม่สามารถออกไปตรวจงานจ้าง ในกรณีงานจ้างก่อสร้างตามสัญญาหรือข้อตกลงได้ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐอาจแต่งตั้งบุคคลที่อยู่ในพื้นที่นั้น ๆ เป็นคณะกรรมการหรือกรรมการตรวจรับพัสดุแทน 2.2 ให้เลื่อนระยะเวลาการตรวจรับพัสดุออกไปก่อน จนกว่าคณะกรรมการตรวจรับพัสดุจะสามารถดำเนินการตรวจรับพัสดุนั้น ๆ ได้
“กรมบัญชีกลางได้แจ้งให้ส่วนราชการถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกันแล้ว รายละเอียดตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 171 ลงวันที่ 24 เมษายน 2563 หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ”.
July 07, 2020 at 09:19AM
https://ift.tt/3f64qRl
บัญชีกลาง แก้ปม "จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ" ก่อน/หลังโควิด-19 แจ้งเกณฑ์ไม่ทิ้งงาน คืนเงินประกัน งดค่าปรับ เลื่อนตรวจรับงาน - ผู้จัดการออนไลน์
https://ift.tt/36KG1NQ
Home To Blog
No comments:
Post a Comment