Pages

Monday, June 1, 2020

เบรกผับบาร์-ให้โรงเรียนเปิดก่อน - ไทยรัฐ

sebelumselamanya.blogspot.com

ชี้เด็กเล็กคุมได้ ห่วงนศ.มากกว่า ปลัดกษ.รับแล้ว ข้อมูลเกษตรกร ไม่ค่อยอัปเดต!

เมื่อถามว่า มีการตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงยังห้ามนวดหน้า แต่สถานเสริมความงามใบหน้าสามารถทำได้แล้ว นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เป็นความห่วงใยทางด้านสาธารณสุข เพราะโรคนี้ติดต่อกันผ่านทางเดินหายใจ ประกอบกับเรื่องของทักษะ การป้องกันส่วนบุคคล ความรู้ในการจัดการ ในสถานเสริมความงามนั้นเป็นการดำเนินการทางเวชกรรมเกี่ยวข้องกับบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีวิธีการและถูกฝึกอบรมมา เราค่อนข้างจะมั่นใจในระบบนี้ แต่เรื่องการนวดหน้า ยังมีหลายระดับที่เกี่ยวโยงกับชุดพฤติกรรม มีการใกล้ชิด ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน เป็นความเสี่ยงสูงมากๆจะเห็นได้ว่า มีผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศหลายคนที่ทำอาชีพนวด และติดเชื้อ ดังนั้นจึงเป็นความห่วงใย กลัวว่าท่านจะติดเชื้อ เป็นการดูแลท่าน ไม่ได้มีประเด็นอื่นเลย

ผ่าน มิ.ย.ด้วยดี ก.ค.เลิกฉุกเฉิน

เมื่อถามอีกว่า มีข่าวว่า ศบค.หารือเรื่องวันหยุดชดเชยสงกรานต์ที่เลื่อนมาจากเดือน เม.ย.โดยจะให้หยุดชดเชยในเดือน ก.ค.ถือว่าเหมาะสมหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เรื่องของช่วงเวลาในอนาคตถูกกำหนดโดยปัจจุบัน ในเดือน ก.ค.จะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ ก็อยู่ที่ผลของการผ่อนคลายในระยะที่ 3 และ 4 ต้องขอความร่วมมือในการดูแลสุขลักษณะของประชาชน การ์ดต้องไม่ตกเหมือนก่อนการผ่อนคลายในระยะที่ 1 และ 2 แต่ปัจจุบันหลายคนใส่หน้ากากน้อยลง รถเริ่มกลับมาติด มี แนวโน้มเรื่องการป้องกันลดลงทุกด้าน อีกทั้งยังจะมีโรคตามฤดูกาลเข้ามาอีก หวังให้เดือน มิ.ย.ผ่านพ้นไปด้วยดี ถ้าผ่านการผ่อนคลายระยะที่ 3 และ 4 ไปอย่างเรียบร้อย ในเดือน ก.ค.ก็จะได้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมีวันหยุด นี่คือ ความหวังและความฝันที่เราจะทำร่วมกัน เราจะได้ไปเที่ยวทะเลที่มีหาดทรายที่ขาวกว่าเดิมก่อนใคร ขอให้เราผ่านเดือนนี้ไปให้ได้ ทุกอย่างจะกลับคืนมา

ผับ–บาร์ ต้องเปิดหลังโรงเรียน

อีกด้านหนึ่งที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มกิจการสถานบันเทิงมีความพยายามให้รัฐอนุญาตเปิดในระยะต่อไปหรือระยะ 4 ประมาณกลางเดือน มิ.ย.นั้น ขอยืนยันว่าการเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ จะเปิดได้ต้องทำหลังการเปิดโรงเรียนแล้ว เพราะถ้ามีความเสี่ยงอะไรเกิดขึ้นจากการเปิดสถานบันเทิง จะทำให้โรงเรียนไม่สามารถเปิดได้ ย้ำว่าโรงเรียนต้องได้เปิดก่อน ขณะนี้โรงเรียนมีหลายระดับ มองว่าโรงเรียนขนาดเล็ก นักเรียนน้อย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง สามารถทดลองเปิดเรียนได้ก่อนวันที่ 1 ก.ค.ด้วยซ้ำ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการควบคุมโรคด้วย โอกาสเกิดการแพร่เชื้อในโรงเรียนได้เสมอ รวมถึงการดูแลเข้มข้นในโรงเรียนประจำเพราะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดเวลา อย่างไรก็ตามที่กังวลขณะนี้คือระดับอุดมศึกษา มหาวิทยาลัย

ห่วงเด็กมหา’ลัยทำโรคแพร่ระบาด

เมื่อถามย้ำว่าทำไมถึงกังวลกลุ่มมหาวิทยาลัย เพราะเป็นผู้ใหญ่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้ ในขณะที่กลุ่มเด็กเล็กอาจจะปฏิบัติเรื่องสุขอนามัยไม่ได้เต็มที่ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า เพราะมหาวิทยาลัย เป็นวัยรุ่นที่ต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง มีความเป็นตัวเองสูง มีการทำกิจกรรมรวมกลุ่มกันลักษณะต่างๆ รวมถึงการสังสรรค์ค่อนข้างมาก ทั้งในมหาวิทยาลัย หอพัก ส่วนเด็กเล็กมีเพียงโอกาสการรับเชื้อจากในโรงเรียน แต่ไม่ได้ไปทำกิจกรรมที่ไหนต่อ เลิกเรียน กลับบ้านกับผู้ปกครอง

ขอร้านค้าในปั๊มน้ำมันโหลดไทยชนะ

นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่ช่วยกันใช้แพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันไทยชนะ ขณะนี้มีผู้ใช้งานแล้ว มากกว่า 18.5 ล้านคน การประเมินมาตรการ 5 ข้อ มีผู้ให้ความร่วมมือ 20 กว่าล้านครั้ง บ่งบอกว่าคนไทยเข้าใจเป็นอย่างดี ยืนยันว่าเป็นมาตรการที่ทั่วโลกยอมรับว่าป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้จริง เป็นส่วนประกอบสู่ระยะการผ่อนปรนที่ 4 ส่วนมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 ผ่อนปรนโดยเฉพาะให้เดินทางข้ามจังหวัด ขอความร่วมมือร้านค้าที่อยู่ตามปั๊มน้ำมัน ดาวน์โหลดคิวอาร์โค้ดไทยชนะไว้ให้ผู้ใช้บริการลงทะเบียน ส่วนปัญหาข้อความขยะในระบบไอโอเอส เช่น เชิญชวนเล่นการพนันนั้นไม่ได้เกิดจากแพลต– ฟอร์มไทยชนะ ได้สอบถามไปยังบริษัทแอปเปิลได้รับคำตอบว่า ได้ประสานมายังระบบเครือข่ายมือถือในประเทศไทยให้ปิดข้อความดังกล่าวแล้ว

บีแจงแอปไทยชนะไม่เกี่ยว SMS ขยะ

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่ากรณีข้อความโฆษณารบกวนที่มีการแพร่ระบาดแข่งกับโควิด-19 ในขณะนี้ ตรวจสอบพบว่า โทรศัพท์ที่ได้รับเอสเอ็มเอสโฆษณาชักชวนเล่นพนันกว่า 99.99% เป็นโทรศัพท์ที่ใช้ระบบ iOS แม้จะไม่เคยใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ก็ได้รับข้อความโฆษณารบกวนเช่นกัน ได้ส่งเรื่องไปยังบริษัทผู้ให้บริการระบบ iOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนโทรศัพท์มือถือไอโฟน และแท็บเล็ตไอแพด ของ Apple แล้ว แต่ยังไม่ตอบรับกลับมา สำหรับแอปไทยชนะ พัฒนาขึ้นมารองรับมาตรการผ่อนคลายเพื่อให้ธุรกิจต่างๆได้ดำเนินต่อไปได้ โดยควบคุมไม่ให้ แต่ละร้านมีคนหนาแน่นเกินไปจนเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัย และคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของประชาชน โดยหน่วยงานที่เข้าถึง ข้อมูลทั้งหมดได้ คือกรมควบคุมโรค เมื่อพบว่าใคร ติดเชื้อโควิด-19 จะตรวจสอบได้ทันทีว่าคนคนนั้นไปที่ไหนมาบ้าง ในช่วงเวลาใด แต่ละที่มีใครบ้างจะได้ติดต่อไปให้เข้าสู่กระบวนการตรวจโดยละเอียด และรักษาได้ทันการ

เตือนระวังแอปไทยชนะปลอม

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) แจ้งเตือนว่า พบแอปพลิเคชันที่ใช้โลโก้และชื่อคล้ายไทยชนะ เผยแพร่บน Google Play Store อ้างว่าใช้เพื่อสแกน QR code ณ เวลาที่พบ มียอดดาวน์โหลดไปแล้วประมาณ 1,000 ครั้ง ทั้งนี้แอปพลิเคชันดังกล่าวไม่ใช่แอปพลิเคชันทางการของ ศบค. ผู้ใช้ควรพิจารณาก่อนดาวน์โหลด จากการตรวจสอบ แอปพลิเคชันนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อแสดงโฆษณา โดยขอสิทธิที่อาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวหรือการใช้งานได้ เช่น โทร.ออก เข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ และแก้ไขการตั้งค่า launcher ในเครื่อง สำหรับรายงานภาพรวมการใช้งานไทยชนะเมื่อวันที่ 31 พ.ค.63 มีจำนวนกิจการที่ลงทะเบียน 133,694 ร้านค้า จำนวนผู้ใช้งานรวม 18,587,269 คน แบ่งเป็นการเข้าใช้งานผ่านเว็บไซต์ไทยชนะ 18,523,417 คน และเข้าใช้งานผ่านแอปไทยชนะ 63,852 คน ขณะที่แอปไทยชนะ มียอดการดาวน์โหลดแล้ว 120,076 ครั้ง

ร.ร.กทม.เตรียมสอน 4 รูปแบบ

ส่วนที่ศาลาว่าการ กทม. เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 12/2563 ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รายงานการเตรียมความพร้อมการจัดการเรียนการสอนโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำนักการศึกษาได้เตรียมจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน 4 รูปแบบ ดังนี้ 1.การสลับชั้นมาเรียนของนักเรียนแบบสลับวันเรียน 2.การสลับชั้นมาเรียนของนักเรียนแบบสลับวันคู่ วันคี่ 3.การสลับช่วงเวลามาเรียนของนักเรียนแบบเรียนทุกวัน และ 4.การสลับกลุ่มนักเรียนแบบแบ่งนักเรียนในห้องเป็น 2 กลุ่ม โดยแต่ละรูปแบบจะพิจารณาตามความเหมาะสมกับขนาดโรงเรียน และพื้นที่ที่แตกต่างกัน

อัศวินปิดต่อ 16 สถานที่ถึงสิ้น มิ.ย.

มีรายงานด้วยว่า เมื่อค่ำวันที่ 31 พ.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้ลงนามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 10) โดยให้ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว 16 สถานที่ และผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ ดังต่อไปนี้ ให้ปิดสถานที่ดังนี้ 1.สถานบริการ ผับ บาร์ สถานบันเทิง และสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ 2.สวนน้ำ สวนสนุก 3.สนามเด็กเล่น เครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด 4.โต๊ะสนุ้กเกอร์ บิลเลียด 5.สถานที่เล่นตู้เกม

เซียนม้ามวยชนไก่ปลากัดหงอย

6.ร้านเกม และร้านอินเตอร์เน็ต 7.สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่ 8.สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือสถานดูแลผู้สูงอายุ (ยกเว้นที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ) 9.สนามมวย 10.โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) 11.สนามม้า 12.สถานประกอบกิจการอาบน้ำ 13.สถานประกอบกิจการอาบอบนวด 14.สนามแข่งขันทุกประเภท 15.สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน และ 16.สนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน

ย้ำกิจการปลดล็อกต้องเข้มคุมโรค

ขณะที่สถานที่ที่ได้รับการผ่อนคลายตามคำสั่งของ กทม. แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของทางราชการประกอบด้วย 1.ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ รถเข็น หาบเร่ แผงลอย ภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ซึ่งไม่รวมถึงสถานบริการ ผับ บาร์ แต่ยังคงห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในสถานที่ดังกล่าว 2.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ เปิดดำเนินการได้จนถึง 21.00 น. 3.ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ 4.ห้องประชุมในโรงแรมหรือศูนย์ประชุม 5.ร้านค้าปลีก/ค้าส่งขนาดย่อม ร้านค้า/ค้าปลีกส่งชุมชน ตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด 6.ร้านค้าปลีก/ค้าส่ง หรือตลาดค้าส่งขนาดใหญ่

ตัดผมเสริมสวยต้องไม่เกิน 2 ชม.

7.ร้านเสริมสวยแต่งผมหรือตัดผมสำหรับบุรุษหรือสตรี ให้เปิดดำเนินการจำกัดเวลาการให้บริการในร้านไม่เกินรายละ 2 ชั่วโมง และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน 8.สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง 9.สถานรับเลี้ยงเด็กหรือสถานดูแลผู้สูงอายุ (เฉพาะที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ) 10.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน 11.คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ร้านทำเล็บ 12.สนามกอล์ฟ และสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ 13.สนามกีฬา 14.สวนสาธารณะ ลาน-พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา 15.สถานที่ให้บริการดูแลรักษาสัตว์ สปา อาบน้ำ ตัดขน รับฝากสัตว์

เริ่ม 1-30 มิ.ย.จนกว่าจะเปลี่ยนแปลง

16.สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส 17.สถานที่หรือสนามออกกำลังกายในร่ม 18.สระว่ายน้ำสาธารณะทั้งกลางแจ้งและในร่ม 19.สวนพฤกษศาสตร์ สวนดอกไม้ พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ห้องสมุดสาธารณะ และหอศิลป์ 20.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา และสถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า 21.สนามฝึกซ้อมมวย โรงยิมหรือค่ายมวย 22.สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สเกต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการละเล่นอื่นๆในทำนองเดียวกัน 23.สถาบันลีลาศ หรือสอนลีลาศ 24.สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำในบึง 25.โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ 26.สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์ และ 27.อาคารสถานที่ของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิ.ย.63 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

พารากอนใช้ 3โรบอต 5 จีสร้างสีสัน

วันเดียวกันที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เอไอเอส นำขีดความสามารถของเทคโนโลยี 5G มาช่วยเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยและสุขอนามัยของประชาชน หลังได้รับการผ่อนปรนระยะ 3 โดยนำกองทัพหุ่นยนต์อัจฉริยะ พัฒนาโดยทีมวิจัย AIS Robotic Lab อาทิ หุ่นยนต์ ROC, K9 และ PP ที่ทำงานบน LIVE Network 5G มาช่วยสร้างสีสันในวันคลายล็อกเปิดโรงภาพยนตร์วันแรก โดยหุ่นทั้ง 3 ตัว ปฏิบัติหน้าที่ในการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ มีความแม่นยำสูง ลดการสัมผัสใกล้ชิด และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

สุดล้ำฉายหนังตัวอย่างวัดอุณหภูมิ

มีรายงานว่า การทำงานของหุ่นยนต์ PP ลักษณะคล้ายคนมีแขน มีหัว บริเวณลำตัวมีจอภาพ เป็นหุ่นยนต์อัจฉริยะเพื่อความบันเทิง ทำหน้าที่ต้อนรับและแสดงตัวอย่างภาพยนตร์ที่กำลังเข้าฉายให้ลูกค้าได้รับชมก่อนตัดสินใจ และเคลื่อนไหวคล้ายการเต้นสร้างสีสันความสนุกสนานให้กับผู้เข้ามาใช้บริการ ส่วนหุ่นยนต์ ROBOT FOR CARE (ROC) ช่วยปฏิบัติหน้าที่คัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าโรงภาพยนตร์ ด้วยระบบเทอร์โม-สแกน ขณะที่หุ่นยนต์ AIS K9 ลักษณะคล้ายสุนัข เคลื่อนที่ให้บริการเจลล้างมือแอลกอฮอล์ รอบๆ พื้นที่โรงภาพยนตร์ สร้างความสนใจให้กับประชาชนที่เข้ามาชมภาพยนตร์เป็นอย่างมาก

ร้านตัดเล็บปรับรูปแบบสู้โควิด

ส่วนที่ร้าน natty nails รับตกแต่งเสริมความงามเล็บ ตั้งอยู่ที่ชั้น G ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ อาคาร B กลับมาเปิดบริการอีกครั้งพร้อมปรับโฉมใหม่ตามนโยบายป้องกันแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ด้วยการทำฉากกั้นพลาสติกใสมากั้นระหว่างช่างกับลูกค้า แต่เปิดไว้เฉพาะช่องเล็กๆด้านล่างของฉากกั้นพอแค่ให้ลูกค้าสอดมือเข้ามาเพื่อให้ช่างตกแต่งเสริมความงามของเล็บ ขณะที่ช่างแต่งเล็บเองก็สวมถุงมือหน้ากากอนามัยและเฟซชิลด์ตลอดเวลาที่ทำงาน พร้อมตั้งกฎให้ผู้ที่มาใช้บริการต้องแจ้งจองคิวล่วงหน้า จากการสอบถาม “คุณต้อง” เจ้าของร้าน natty nails เผยว่า กว่า 2 เดือนที่ต้องปิดตัวยาวทำให้ตนและลูกจ้างอีก 2 คน รับผลกระทบและเดือดร้อนเพราะรายได้หดหาย ดังนั้นวันแรกที่ได้รับการผ่อนปรนให้เปิดบริการ ปรับหน้าร้านใหม่ใช้ไอเดียที่จะให้มีการเว้นระยะห่างและรักษาความสะอาด เพื่อลูกค้าเกิดความมั่นใจและกลับมาใช้บริการอีกครั้ง

เปิดนวดฝ่าเท้า โลตัสลาดพร้าว

ขณะที่ร้านนวดสราลัย นวดแผนไทย บริเวณชั้นที่ 3 ของห้างเทสโก้โลตัส สาขาลาดพร้าว ถนน พหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ได้เปิดกิจการแล้ว โดยบริการเฉพาะการนวดฝ่าเท้าเท่านั้น มีประชาชนใช้บริการประมาณ 3-4 คน ทางร้านได้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด มีการใช้แอลกอฮอล์ล้างมือและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการ รวมทั้งจัดเบาะนั่งห่างกันตามมาตรการระยะห่างหรือ Social distancing ส่วนบรรยากาศภายในห้างสรรพสินค้ามีประชาชนเข้าใช้บริการบางตา ส่วนฝั่งผู้ประกอบการนั้นบางร้านค้าก็ยังไม่เปิดให้บริการแต่อย่างใด

อ่างทองคัดกรองเข้มจองคิวนวด

ที่ร้านมาตานวดแผนไทย ส่งเสริมสุขภาพด้วยศาสตร์และศิลป์ เลขที่ 129 ถนนเทศบาล 10 ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง กลับมาเปิดบริการตามปกติเป็นวันแรกหลังถูกปิดมานานเกือบ 3 เดือน น.ส.จรรยมณฑน์ คำดี อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน เผยว่า ทางร้านปรับรูปแบบการบริการใหม่ เน้นเรื่องความสะอาดเพิ่มมากขึ้น ตั้งจุดคัดกรองสำหรับผู้มาใช้บริการบริเวณหน้าร้าน ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย บริการเจลล้างมือ รวมถึงลูกค้าต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และโทร.จองคิวล่วงหน้าเพื่อลดความแออัดภายในร้าน ช่วงที่ร้านปิดเดือดร้อนมาก ไม่มีรายได้ ตั้งตารอวันที่จะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง ทางร้านยินดีให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด

เปิดหาดบางแสนคนแห่เล่นน้ำ

เช่นเดียวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ กลับมาคึกคักอีกครั้ง ที่ชายหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี ผกก.สภ.แสนสุข สั่งการให้ตำรวจรื้อรั้วกั้นตามแนวชายหาดบางแสน และชายหาดวอนนภาออก เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าไปพักผ่อนและเล่นน้ำทะเลได้ หลังจากที่ปิดชายหาดมานานกว่า 2 เดือน มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาพักผ่อนและลงเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์กล่าวว่า จังหวัดชลบุรีมีคำสั่งให้เปิดชายหาดได้ แต่ร้านค้า เตียงผ้าใบ ยังไม่ให้บริการนักท่องเที่ยว และจะเปิดอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 5 มิ.ย. ที่สำคัญห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มานั่งดื่มโดยเด็ดขาด หากพบจะจับกุมทันที

เฉลิมชัยยันเยียวยาเกษตรกรทุกกลุ่ม

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยความคืบหน้าการเยียวยาเกษตรกรว่า กรณีที่พบว่าหัวหน้าครัวเรือนเกษตรตามทะเบียนเกษตรกรกว่า 100,000 รายเสียชีวิต จะต้องโอนเงินให้ทายาทหรือไม่นั้น โดยหลักที่มอบผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯไปพิจารณา คือ วันนี้เงินเยียวยาจะช่วยพี่น้องคนไทยที่เป็นเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบและเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้นการพิจารณาให้เงินเยียวยาไม่ใช่เฉพาะทายาททุกๆกลุ่ม แต่อะไรที่ไม่ใช่เงื่อนไขที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ระบุหรือกำหนดมา กระทรวงเกษตรฯมีหน้าที่พิจารณาให้การเยียวยาหมด เว้นแต่กรณีที่คณะกรรมการ กลั่นกรองฯกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ขึ้นมาแล้ว ตรงนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย

คำนึงถึงความเดือดร้อนเป็นหลัก

ส่วนที่นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ให้กระทรวงเกษตรฯไปทำเรื่องยืนยันกับทายาทของครัวเรือนเกษตร ถ้าพ่อแม่เสียชีวิตแต่ลูกยังทำเกษตรอยู่ กระทรวงเกษตรฯสามารถส่งชื่อมาให้จ่ายเงินได้นั้น นายเฉลิมชัยกล่าวว่า เราพิจารณาอยู่แล้ว บอกแล้วว่าเราคำนึงถึงความเดือดร้อนเป็นหลัก ส่วนการแจ้งให้ทายาทมาอัปเดตทะเบียนเกษตรกร ต้องถามนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาตรงนี้พิจารณาอยู่แล้ว และรวมถึงทั้งเรื่องการอุทธรณ์ ขอฝากพี่น้องเกษตรกรที่ถูกตัดสิทธิ์ขอให้ทุกท่านไปยื่นอุทธรณ์กับหน่วยงานที่ขึ้นทะเบียนไว้ในภูมิภาคทุกที่ ขอให้เชื่อมั่นว่าการพิจารณาการอุทธรณ์มีปลัดกระทรวงเกษตรฯเป็นประธาน ท่านรู้เป้าหมายความต้องการของรัฐบาลและรู้ความเดือดร้อนของประชาชน มั่นใจว่าจะดูแลพี่น้องเกษตรกรอย่างเป็นธรรมที่สุด

หลักการคือช่วยเหลือคนที่ยังอยู่

ด้านนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯกล่าวว่า กรณีหัวหน้าทะเบียนเกษตรกรเสียชีวิตกว่า 100,000 ราย จะไม่ใช้แนวคิดต้องโอนเงินไปให้ทายาททดแทน เพราะการช่วยเหลือครั้งนี้ช่วยคนที่ยังอยู่ และได้รับผลกระทบให้ประคองชีวิต นี่คือหลักของการช่วยเหลือ แต่กรณีที่หัวหน้าครัวเรือนเกษตรเสียชีวิต ถามว่า สมมติพวกที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรพอหัวหน้าครัวเรือนตาย ครัวเรือนยังทำเกษตรอยู่มั้ย ถ้าลูกเขายังทำการเกษตรอยู่และเป็นเกษตรกรอยู่ ถามว่าควรได้รับสิทธิ์มั้ย ไม่เกี่ยวกับพ่อแม่ตายไม่ตายนะ แต่ต้องอัปเดตทะเบียน ตอนนี้บอกธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ฯ (ธ.ก.ส.) ที่บอกมีคนตายเป็นแสนให้ส่งข้อมูลมาที่ตน และถ้าขึ้นทะเบียนกับกรมไหนก็จะส่งกลับไปให้ทบทวน เช่น ให้กรมส่งเสริมการเกษตรไปตรวจสอบย้อนกลับว่า คนๆนี้ตายเมื่อไหร่ และวันนี้ยังทำเกษตรอยู่หรือไม่ โดยกรมฯจะอัปเดตเองเพราะเจ้าตัวเขาไม่รู้

รับข้อมูลเกษตรกรไม่อัปเดต

นายอนันต์กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าการขึ้น ทะเบียนเกษตรกร ที่บอกอัปเดตทุกปีนั้น บางทีชื่อไม่ได้อัปเดต แต่อัปเดตปลูกข้าวเมื่อไหร่ พันธุ์อะไร เช่นเดียวกับการเลี้ยงฟาร์มหมู เคยมีอยู่ 12 ตัว ปีนี้พออัปเดตเพิ่มมี 15 ตัว เป็นการอัปเดตข้อมูลทางการเกษตรมากกว่า แต่ชื่อในทะเบียนไม่ค่อยได้ปรับ คนที่เป็นสมาชิกในครัวเรือนไปอยู่กรุงเทพฯแล้วก็มี เพราะวัตถุประสงค์หลักของการขึ้นทะเบียนเพื่อติดตามข้อมูลทางการเกษตร ไม่ได้เน้นเรื่องหัวหน้าครัวเรือน พอมีกรณีนี้มาตอนแรกก็ไม่ค่อยเชื่อว่า ในเมื่อเพิ่งอัปเดตตอนปี 62/63 เพียงปีเดียวตายเป็นแสนคน ดังนั้น ต่อไปกระทรวงเกษตรฯจะเชื่อมข้อมูลกับกระทรวงมหาดไทยด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริงมากที่สุด”

ครั้งแรกใน ปวศ.ไร้ นทท.เยือนไทย

วันเดียวกัน มีรายงานจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวเดือน เม.ย.63 ผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วทั้งโลก โดยตลอดเดือน เม.ย. ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเลยแม้แต่คนเดียว เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทย เป็นผลมาจากการประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงวันที่ 25 มี.ค.63 ที่ให้ปิดด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ และประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ที่ห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว อีกทั้งจากการขยายเวลาห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 4 และ 5 ที่ระยะเวลาขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. คาดว่า จะไม่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยต่อไปอีกในเดือน พ.ค.-มิ.ย.

โควิดทำท่องเที่ยวโลกลดลง 60%

รายงานระบุด้วยว่า ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศพบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทยท่องเที่ยวในประเทศ 97,356 คน-ครั้ง หดตัวมากถึง 99.32% สร้างรายได้ 499 ล้านบาท หดตัว 99.45% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนตัวเลขรวมตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.63 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยท่องเที่ยวภายในประเทศสะสม 24.7 ล้านคน-ครั้ง หดตัว 50.26% มีรายได้สะสมจากการท่องเที่ยว 190,000 ล้านบาท หดตัว 48.34% แหล่งท่องเที่ยวและโรงแรมส่วนใหญ่ปิดบริการชั่วคราว อย่างไรก็ตามพบว่า ยังคงมีการเดินทางของประชาชนบางส่วนเพื่อเยี่ยมญาติ และกิจธุระเป็นหลัก นอกจากนี้ สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ประเทศต่างๆทั่วโลก ใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดภายในประเทศ องค์การท่องเที่ยวโลกระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 การท่องเที่ยวระหว่างประเทศของโลกลดลง 22% และคาดว่า ตลอดทั้งปีอาจจะลดลงถึง 60% จากปีที่ผ่านมา

จุรินทร์ควง พม.เยี่ยมชุมชนท่าเรือ

ส่วนการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากพิษไวรัสโควิด-19 ช่วงสายวันเดียวกัน ที่ชุมชนริมทางรถไฟสายท่าเรือ เขตคลองเตย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และตัวแทนกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เยี่ยมชุมชน พร้อมจัดหน่วยให้คำปรึกษา ตรวจสุขภาพ จัดหางาน สินค้าธงฟ้า มาให้บริการประชาชน

เร่งช่วยกลุ่มเปราะบาง 13 ล.คน

นายจุรินทร์กล่าวว่า รัฐบาลและ ศบค.ได้เร่งช่วยเหลือเยียวยาทุกกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มคนพิการ ได้ปรับเพิ่มเบี้ยจาก 800 บาท เป็น 1,000 บาท เริ่ม 1 ต.ค.63 พักชำระหนี้ 1 ปีสำหรับผู้กู้กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและอนุมัติให้กู้ไปประกอบอาชีพรายละไม่เกิน 10,000 บาทโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่มีดอกเบี้ยและผ่อนชำระได้ 5 ปี ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังเห็นชอบตามที่ พม.เสนอการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางทั้งเด็กเล็ก คนพิการ และผู้สูงอายุ เพิ่มเติมเดือนละ 1,000 บาทต่อเนื่อง 3 เดือน รวม 13 ล้านคน ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารายชื่อบุคคลที่จะไม่ให้ซ้ำซ้อนกับผู้ที่ได้รับเงินเยียวยาไปแล้ว

“เทวัญ” จ่อชงเยียวยาผู้ค้าสลาก

ส่วนความเดือดร้อนของผู้ได้รับผลกระทบจากพิษไวรัสโควิด-19 ที่เข้ามาร้องเรียนหน่วยงานรัฐยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 10.50 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นตัวแทนรับเรื่องร้องเรียนจากตัวแทนกลุ่มก้าวหน้าค้าสลากและเครือข่ายแผงลอย ที่ประสบปัญหาได้รับผลกระทบจากการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า กลุ่มผู้ค้าสลากมาร้องเรียนการเช่าพื้นที่จากเอกชน บางรายเซ้งร้านต่อในราคาเกือบ 1 ล้านบาทในพื้นที่แค่ไม่กี่ตารางเมตร ทั้งนี้ได้ชี้แจงไปแล้วว่าราคาสลากซื้อขายเกินราคาเป็นเรื่องผิดกฎหมายซึ่งเขายอมรับ แต่บอกว่าถูกเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานไปจับกุม ได้รับความเดือดร้อน ได้มีการหารือกันตนพยายามติดต่อหาพื้นที่ให้ ทั้งห้างสรรพสินค้าและปั๊มน้ำมัน จะนำเรื่องไปแจ้งให้กับนายกรัฐมนตรีทราบ นอกจากนี้ผู้ค้าสลากอยากจะได้รับเงินเยียวยาที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะถือว่าเป็นกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีเหมือนกัน อยากได้เงินมาเสริมสภาพคล่องเพื่อนำเงินไปซื้อสลาก จะส่งเรื่องนี้ให้กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง

เล็งคุย กทม.เปิดพื้นที่แผงลอย

นายเทวัญกล่าวต่อว่า ส่วนผู้ค้าแผงลอยปัจจุบัน กทม.ได้ยกเลิกพื้นที่ขายไปหลายจุด อยากให้มีการผ่อนผันเพิ่มอีก 26 จุดทั่ว กทม. ที่ผ่านมาผ่อนผันไปเพียง 3 จุดเท่านั้น กทม.ชี้แจงว่า เป็นเรื่องของการจราจรและความสะอาด นอกจากนี้ยังมีบางคนนำแผงไปเซ้งต่อ ทางกลุ่มผู้ค้ายืนยันว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบของ กทม. ขณะที่ กทม.ได้ชี้แจงว่าหากใช้เปิดแผงลอยในจุดไหนจะมีการทำประชาพิจารณ์ในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจ หลังจากหารือกับ กทม.ทางสำนักเทศกิจจะพิจารณาเชิญกลุ่มผู้ค้าแผงลอยมาอยู่ในคณะกรรมการประชาพิจารณ์ด้วยหรือไม่เพื่อให้กลุ่มผู้ค้ารับรู้ว่าหากไม่ผ่านเกณฑ์มีสาเหตุมาจากอะไรเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข โดยตนได้แจ้ง กทม.ไปว่าตรงไหนเปิดเป็นตลาดได้ให้แจ้งทางกลุ่มผู้ค้าไปเลย ส่วนหนึ่งที่กลุ่มนี้มาร้องเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาตลอดระยะเวลา 2 เดือน

ศาลให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว

นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงคดีที่มีการเลื่อนนัดพิจารณาคดีในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. เนื่องจากวิกฤติโควิดว่า ขณะนี้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศมีความพร้อมที่จะเริ่มกลับมาพิจารณาคดีเต็มรูปแบบในวันที่ 1 มิ.ย. โดยคณะอนุกรรมการศึกษาติดตามและแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการคดีของศาลยุติธรรม มีนางเมทินี ชโลธร รองประธานศาลฎีกา เป็นประธานคณะอนุกรรมการ กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการคดี และด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งสถานที่และบุคลากรสำหรับการพิจารณาคดีให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อาทิ กำหนดให้คู่ความและผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องพิจารณาใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และให้อยู่ห่างจากบุคคลอื่นในระยะอย่างน้อย 1-1.5 เมตร จัดให้มีจุดบริการเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service) เพื่อให้คู่ความหรือทนายความสามารถยื่นคำคู่ความหรือเอกสารใดๆ โดยที่มีเจ้าหน้าที่รับและมีระบบการติดตามทราบคำสั่งหรือความคืบหน้าของคดีหรืออาจจัดให้มีการบริการ Drive Thru เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาติดต่อโดยไม่ต้องลงจากรถ เป็นต้น

Let's block ads! (Why?)


June 02, 2020 at 05:23AM
https://ift.tt/2XUI0ek

เบรกผับบาร์-ให้โรงเรียนเปิดก่อน - ไทยรัฐ
https://ift.tt/36KG1NQ
Home To Blog

No comments:

Post a Comment